ทำไมถึงต้องมีค่าธรรมเนียม ในระบบแฟรนไชส์

ถ้าเราสามารถเริ่มต้นธุรกิจที่เราไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเพียงพอ ไม่มีตราสินค้าหรือชื่อเสียงร้านพอที่จะให้ลูกค้าเข้ามาในร้านและไม่มีสินค้าทีเด็ดไว้ผูกใจลูกค้า แถมตอนเริ่มต้นธุรกิจก็ยังไม่มีเงินลงทุนพอที่จะสร้างรูปแบบธุรกิจที่น่าสนใจ ไม่เข้าใจการออกแบบร้าน กระบวนการจัดการทำงานในร้านให้ดำเนินได้ทั้งเวลาลูกค้าน้อย หรือมากตามแต่ละสถานการณ์ แล้วถ้ามีใครเข้ามาช่วยงานที่ว่าทั้งหมด รวมถึงการหาพื้นที่ทำเลที่เปิดร้านให้ช่วยลดความเสี่ยง ดูเรื่องการหาสินเชื่อ พร้อมทั้งอบรมให้ความรู้ทางธุรกิจอย่างเข้มข้นเกิดประโยชน์จนเราเข้าใจการดำเนินธุรกิจที่ตั้งใจไว้ได้อย่างดี นอกจากนั้นหลังจากเปิดร้านแล้วก็ยังมีการช่วยเหลือต่อเนื่องมีการพัฒนาธุรกิจไม่ให้หยุดอยู่กับที่ แล้วถ้ามีคนทำงานให้อย่างนี้เราควรต้องมีผลตอบแทนให้เขาหรือไม่
ถ้าท่านยังตอบว่าไม่ควร ไม่น่าจะมี หรือ ถือเป็นบุญคุณธรรมดา ไม่ควรนำมาหาประโยชน์ทางธุรกิจ อย่างนั้นสงสัยต้องขอผ่านตัวใคร ตัวมันก่อนแล้วกัน
เพราะกว่าที่ใครสักคนจะสร้างระบบธุรกิจสนับสนุนให้คู่ธุรกิจหรือที่เราเรียกว่า แฟรนไชส์ซี สามารถดำเนินการได้นั้นจะต้องมีการเตรียมการก่อนเพื่อสร้างความพร้อมในการช่วยเหลือสร้างรูปแบบแฟรนไชส์ให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้นการที่จะคิดค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์และค่าธรรมเนียมต่างๆ ต้องมีการตรวจสอบถึง ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจในวิธีการจัดเก็บค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะการสร้างธุรกิจแต่ละสาขาขึ้นมานั้นต้องมีการสำรวจ ตลาด และรูปแบบพื้นที่ในแต่ละเขต การคัดเลือกพื้นที่ หรือกระทั่งการประสานต่อรองค่าเช่า หรือค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ การหารือข้อตกลง ประสานงานร่วมแต่ละฝ่าย ผู้ให้เช่าที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ธรรมดาลงเรียกว่า เป็นผู้ให้เช่าหรือ Land Lord ล้วนแล้วแต่ไม่ธรรมดาเงื่อนไขมากมายแล้วก็กระดูกขึ้นเงาเสียส่วนใหญ่ แล้วยิ่งถ้าเป็นพื้นที่ห้างร้างขนาดใหญ่ถ้าธุรกิจของเราไม่มีชื่อเสียงพอที่จะดึงลูกค้าให้เขาได้โอกาสได้เช่าพื้นที่ดีๆหรือเงื่อนไขที่รับได้นั้นยากขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ แฟรนไชส์ซอร์ที่มีชื่อเสียงสาขามากจะช่วยเรื่องนี้แบบยกภูเขาออกจากอกเลยทีเดียว
นอกจากนั้นแล้วก็ยังต้องมีค่าใช้จ่ายการอบรมทีมงานให้สาขาแฟรนไชส์ด้วย ค่าใช้จ่ายที่ต้องเกิดขึ้นไม่ว่าจะอบรมในสำนักงานหรือในพื้นที่ของร้านเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ เช่น ค่าเครื่องบิน ค่าโรงแรม ค่าอาหาร ค่าเดินทางต่างๆ แน่นอนยังต้องมีการฝึกงานในสถานที่จริงเพื่อให้คนลงทุนเข้าใจและมีความชำนาญเพิ่มขึ้นก็ต้องมี ค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าดำเนินการต่างๆ ส่วนการเตรียมเปิดสาขาค่าใช้จ่ายสำหรับทีมงานที่ต้องเข้าไปช่วยสนับสนุนอย่างน้อยก็ควรมี 2 วันไม่ว่าธุรกิจจะง่ายในการดำเนินการแค่ไหน และค่าใช้จ่ายอื่นค่าจ้างแรงงานพิเศษถ้ามีเพื่อสร้างความพร้อม การเตรียมการด้านเทคนิคการผลิต การใช้เครื่องมือต่างๆอย่างน้อย 40 ช.ม นอกจากนั้นการจัดเตรียมงานด้านการส่งเสริมการขาย การตลาด การตลาดทางตรง การจัดเตรียมเอกสารส่งทางจดหมาย จัดอย่างไร จำนวนเท่าไร การจัดพิมพ์ และการจัดส่ง กระบวนการที่ต้องมีการวางแผนให้เหมาะสมเพราะหมายถึง ความอยู่รอดของสาขาในระยะยาว
เห็นมั๊ยล่ะครับว่า การทำงานให้สาขาแต่ละสาขาเปิดขึ้นมาได้ไม่ใช่เอาแต่เพียงเก็บค่าแฟรนไชส์แล้วไม่ทำอะไรให้เลยคอยแต่จะขายสินค้าให้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงไม่ใช่ระบบแฟรนไชส์ที่ดีแล้วล่ะ ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้า หรือค่าแฟรนไชส์นั้นจึงไม่ใช่เครื่องมือของแฟรนไชส์ซอร์ในการหารายได้ แต่เป็นการทำงานเพื่อที่จะให้เกิดร้านสาขาในระบบดีๆเพิ่มขึ้น กำไรของธุรกิจนั้นอยู่ที่การทำอย่างไรให้สาขาแฟรนไชส์ซีนั้นสร้างกำไร มียอดขายสูงขึ้นแล้วได้ส่วนแบ่งในการบริหารกลับเข้ามาที่เรียกว่าค่ารอยัลตี้นั่นแหละคือ กำไรของธุรกิจแฟรนไชส์ของจริง ถ้าเน้นอยู่ที่การขายสินค้า การให้เช่าป้าย หรือการขายสูตรลับ อย่างนั้นเห็นทีจะต้องทบทวนกันให้ดีเสียก่อน สร้างระบบแฟรนไชส์ต้องมองหาความคิดที่ถูกต้องอย่าคิดเพียงเอาตัวรอดไปชั่วครู่ชั่วคราวมันไม่ยั่งยืนครับ.
ติดต่อสอบถาม
สนใจพูดคุยกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านแฟรนไชส์